วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2554

เสน่ห์ปลายจวัก..........มัดใจได้

 เป็นคำพูดที่คนไทยเราทุกคนหรืออีกหลายๆชาติได้ยินได้ฟังมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าว่ามันเป็นสิ่งสำคัญในการครองเรือน ดำเนินชีวิตคู่ ซึ่งถ้านำมาใช้กับสังคมปัจจุบันในตอนนี้ ก้อคงมีบ้างหล่ะที่เห็นว่า เป็นสิ่งที่ล้าสมัย สู้สิริโคนเด้งๆ หรือปัดมาสคาร่าเฉี่ยวๆคงไม่ได้ แม้แต่ตัวผู้เขียนเองก้อยังแพ้กับความงามเหล่านี้  มันอดให้เราหลงละเมอฟุ้งซ่านไปมิได้ นั้นไง!เผลอแป๊ปเดียวจะพาผู้อ่านไปเรื่องซิลิโคนซะอย่างงั้น  
นี้หล่ะนะความเจ้าชู้ของผู้ชายอยากบอกว่ามีเกือบทุกคนไป ทำให้คิดถึงความฉลาดของคนโบราณที่ให้ความสำคัญของเรื่อง เสน่ห์ปลายจวัก เพื่อมัดใจชายเจ้าชู้ทั้งหลาย ซึ่งหลายคนอาจจะไม่ได้คิดถึงที่มาที่ไปของเรื่องนี้  ผู้เขียนเกิดความคิดที่ว่าเพราะอะไรกะอีแค่ทำอาหาร เมื่อนั่งคิดนอนคิด ถึงเรื่องเหมือนกับจะไร้สาระนี้ ก้อได้คำตอบที่ทุกคนก้อรู้อยู่ในใจ แต่ไม่รู้สึกตัวกันนั้นเองว่าเสน่ห์ปลายจวัก มันคือ  การตอบรับความต้องการของมนุตย์ในขั้นพื้นฐาน ไม่ว่าจะชายหรือหญิง ทุกคนปฏิเสธไม่ได้ว่าความสุขของคนเรานั้นคือการเสพ ไม่ว่าจะเป็นการเสพความสุขทางกลิ่น เสพทางตามองสิ่งสวยงามที่อยากเห็น เสพทางหูฟังสิ่งที่อยากได้ยิน เสพทางลิ้นสัมผัสรสชาติที่อยากลิ้มลอง เมื่อเสพทั้งหมดนี้ ก้อจะมาถึง เสพสุข แหม๋อย่าเพิ่งคิดถึงเรื่อง sex ก่อนสิ ไม่ได้เลยนะ....คิดกันใหญ่เชียว  มัน คือเสพทางความรู้สึกซึ่งรับรู้ถึงความสุขใจตะหาก มันก้อคล้ายๆกัน แต่ถ้าใครอยากจะเหมารวมก้อไม่ว่ากัน เพราะสุดท้ายมันก้อต้องลงด้วยเรื่องนี้อยู่ดีจริงมั๊ยจ้ะ  เสน่ห์ปลายจวักได้รวมทุกสิ่งของความต้องการเหล่านี้ไว้ ถ้าผู้อ่านมีเวลาว่างซักนิดอยากให้ลองสังเกตุคนที่ปรุงอาหารอร่อยๆ และสวยงาม โดยดูว่า ถ้าเค้าตั้งใจทำอาหารให้ใครรับประทานซักคน จะมีความงามที่ออกมาโดยไม่ตั้งใจของผู้ปรุง ตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกวัตถุดิบที่ปราณีต การจดจ่อที่แสดงถึงความใส่ใจในการปรุงอาหาร การลิ้มชิมรสที่อาจจะเห็นถึง ความประหม่าบ้างเป็นบางคราว และรอยยิ้มที่น่ารัก ขณะที่นั่งรอเราเสพอาหารร่วมกันอย่างมีความสุข  เสน่ห์ความงามแบบนี้แม้จะไม่สะท้านใจเท่าสิริโคน หรือไม่เตลิดเท่ามาสคาร่าเฉี่ยวๆ แต่เสน่ห์ปลายจวักก้อเป็นความงามที่อ่อนโยนนุ่มนวลชวนหลงใหลไม่แพ้เสน่ห์อันใดเลย........จริงๆนะ 

เรื่องโดย....I”am key

วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2554

Café & Etcetera By Kloset

                  

หญิงสาวหลายคนคงใฝ่ฝันว่าอยากจับจองเป็นเจ้าของเสื้อผ้าแบรนด์ Kloset สักหนึ่งชุด ข่าวดีเพราะว่า หากวันนี้ยังไม่มีโอกาสเป็นเจ้าของเสื้อผ้า แต่ก็สามารถหาเวลาไปนั่งชิลๆ ทานอาหาร และขนมแสนอร่อยที่ร้านอาหารสีฟ้าสวยสดที่มีชื่อว่า Café & Etcetera By Kloset ได้

ที่เกริ่นนำมาตั้งแต่ต้น จนมาถึงชื่อร้าน คงจะเดาได้ไม่ยาก เพราะร้านนี้เป็นร้านอาหารที่เปิดขึ้นโดยคุณมลลิกา เรืองกฤตยา ผู้ก่อตั้ง และออกแบบเสื้อผ้าแบรนด์ Kloset รวมถึงสินค้าไลฟ์สไตล์แบรนด์ Kloset & Etcetera หากใครที่หลงรัก และประทับสื้อผ้าแบรนด์ Kloset  คงไม่น่าแปลกใจหากจะหลงรัก และประทับใจร้านนี้เช่นกัน อย่างที่บอกไปว่า ร้านนี้ตกแต่งในโทนสีฟ้าสวยสด และเพ้นท์ภาพของตกแต่งบ้าน ซึ่งถูกจัดวางไว้บนชั้น ตัดรับกับเคาน์เตอร์ด้านหน้าร้านที่ตกแต่งด้วยกระเบื้องสีขาวสะอาดตา ในช่วงเวลายามบ่าย หรือยามเย็น

หากมีเวลาก็อย่าลืมชวนเพื่อนๆ คนพิเศษ หรือครอบครัวมานั่งทานอาหาร และของหวาน แม้จะเป็นเมนูง่ายๆ แต่รสชาติอร่อยถูกปาก ถูกใจ ประกอบกับบรรยากาศภายในร้านที่ดูน่ารัก และนั่งสบาย แม้จะไม่ได้สวมชุดของ Kloset ก็สามารถเข้าไปนั่งทานอาหารในบรรยากาศเก๋ๆ อินเทรนด์ และมีสไตล์ในแบบ Kloset ได้เหมือนกันจ้า

การเดินทาง: Cafe & Etcetera By Kloset ตั้งอยู่ที่ทองหล่อ ซ.10 (ตรงข้าม TOA) เปิดทุกวัน เวลา 11.00-23.00 น. โทรศัพท์ 0-2711-6019

          

Spoonful Zakka Café

                           
หากใครยังไม่เคยรู้จักร้านประเภท Zakka Shop คงต้องขอเล่าให้ฟังก่อนว่า Zakka Shop เป็นร้านขายของแบบไลฟ์สไตล์ช็อปที่ญี่ปุ่น ซึ่งคำว่า Zakka ในภาษาญี่ปุ่นมีความหมายว่า สิ่งที่ช่วยเติมสีสัน ความมีชีวิตชีวาให้กับบ้าน และแรงบันดาลใจใหม่ๆให้กับชีวิต และแน่นอนว่าสินค้าภายในร้านจึงล้วนเป็นสิ่งของเครื่องใช้สีสันสวยสดใส ลวดลาย และรูปทรงน่ารักน่าใช้ แทบทั้งสิ้น

สินค้าภายในร้านจัดวางอย่างละลานตา และไม่ได้แบ่งประเภท แต่พอจะแยกได้ตามนี้ เริ่มต้นจากเครื่องใช้ในครัว เครื่องเขียน เสื้อผ้า ของใช้จิปาถะ และอุปกรณ์สำหรับงานศิลปะ  นอกจากนี้ยังมีงาน Hand Made ที่ทำอย่างประณีต และมีเอกลัษณ์ ทั้งประเภทงานไม้ งานถัก งานผ้า งานเซรามิก และงานแก้ว จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า เมื่อเข้าไปในร้านจึงรู้สึกเพลิดเพลินกับการเดินเลือกชมสินค้า จนลืมเวลาไปเลยล่ะ  ของกระจุกกระจิกที่จัดวางอย่างน่าประทับใจ ทำให้ต้องใช้เวลาเลือกชมอยู่นาน จนอาจอยากนั่งพักผ่อน จิบน้ำชายามบ่าย ทางร้านจึงออกแบบให้มีมุมคาเฟ่ญี่ปุ่นขนาดกะทัดรัด แต่ทว่าดูน่านั่งสบาย โดยตั้งชื่อเก๋ๆว่า TBS Café ต้อนรับเราด้วย สโคนเนื้อนุ่ม เสิร์ฟพร้อมครีมสดรสละมุน  ที่ลงตัวเข้ากันกับน้ำชากลิ่นหอมกรุ่นยามบ่าย การันตีอีกทีว่า หากมาเยือนที่นี่ นอกจากจะเพลินตาไปกับหลากสิ่งของ เครื่องใช้แสนน่ารักแล้ว ยังอิ่มสบายท้องแบบเบาๆกับขนมแสนอร่อย จึงต้องยอมรับเลยว่า ร้าน Spoonful Zakka ช่วยสร้างความสุข และรอยยิ้มได้ตั้งแต่เดินก้าวเข้าไปในร้าน จนกล่าวคำลา และเชื่อแน่ๆว่า หลายคนต่างให้สัญญาว่าต้องกลับมาเยือนอีกครั้งแน่นอน

การเดินทาง: Spoonful Sakka & Cafe ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 อาคาร The Portico ซ.หลังสวน เปิดทุกวัน เวลา 10.00-21.00 น. โทรศัพท์ 0-2652-2278


       

อิโมยะ (Imoya)

                          
ครั้งแรกที่ได้ไปเยือนที่ร้านอิโมยะ ก็อดแปลกใจไม่ได้ว่ามีร้านอาหารญี่ปุ่นบรรยาศน่ารักๆแบบนี้ด้วยเหรอ แต่เมื่อได้เข้าไปในร้านจากความแปลกใจก็กลายเป็นความประทับใจ ด้วยเพราะบรรยากาศภายในร้านที่สร้างความรู้สึกเหมือนกำลังนั่งอยู่ในร้านอาหารย้อนยุคของญี่ปุ่น บวกกับมิตรไมตรีที่ได้จากพนักงานเสิร์ฟที่ยิ้มแย้ม และแนะนำอาหารให้เราอย่างอารมณ์ดี  แม้เราจะมีคำถามสงสัยใคร่รู้เกี่ยวกับร้าน เพราะตื่นเต้น และประทับใจในบรรยากาศอย่างเหลือล้น แต่พนักงานก็ใส่ใจในการไขข้อสงสัย พูดคุยกันอย่างอบอุ่น เป็นกันเอง 

เมื่อได้จับจอง และเป็นเจ้าของโต๊ะแล้ว เราก็ได้รับการต้อนรับตามธรรมเนียมญี่ปุ่นด้วยผ้าเย็น ที่ช่วยคลายความร้อน จากอากาศอบอ้าวของบ้านเรา ทำให้รู้สึกสดชื่นกระปรี๊กระเปร่าขึ้นมาทันที ต่อจากนั้นก็มีอาหารเรียกน้ำย่อย ซึ่งทางร้านบริการให้ฟรี และยังถือเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ เมนูเรียกน้ำย่อยในแต่ละวัน จะมีไม่ซ้ำกัน เดาเอาว่าเชฟคงดูจากวัตถุดิบที่หามาได้ แม้จะไม่ใช่เมนูหรูเลิศ แต่ก็เป็นเมนูคลาสสิกที่มีรสชาติแบบ Japan Home Cooking ส่วนเมนูหลักของที่นี่ การันตีว่าอร่อย และสมราคาเป็นอย่างมาก อยากสั่งเมนูไหนก็สะดวกสบาย เพราะมีภาพประกอบตามสไตล์ร้านอาหารญี่ปุ่น โดยมีให้เลือกตั้งแต่ ซาซิมิ ซูชิ  อาหารชุด หรือสั่งแบบเป็นจานมาทานกับข้าวญี่ปุ่นก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ สำหรับอิโมยะ คงไม่มีอะไรต้องอธิบายมาก เพียงอยากแนะนำให้หาเวลาไปเยือนสักครั้ง และจะมีครั้งต่อไป จนอาจกลายเป็นแฟนประจำ และลืมร้านภูเขาแสนสวยแห่งแดนอาทิตย์อุทัยไปเลยล่ะ ลืมบอกไปว่าร้านนี้เป็นการลงนามร่วมกันระหว่างสองชาติ เพราะเจ้าของ และผู้จัดการร้านเป็นชาวญี่ปุ่น ส่วนเชฟ และพนักงานสัญชาติไทยโดยแท้ แต่ถึงแม้กระนั้นรสชาติอาหารก็ยังถูกปาก อีกทั้งบรรยากาศ และการบริการยังถูกใจ ดูแลกันอย่างอบอุ่น จนลืมไปเลยว่า เราน่ะอยู่เมืองร้อน

การเดินทาง: IMOYA จากสถานีรถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์ ลงทางออก ซ.สุขุมวิท 24 (ปากซอยคือ ร้านนารายา)  เดินเข้าซ. สุขุมวิท 24 (ฝั่งเอ็มโพเรียม) ประมาณ 50 เมตร สังเกตุป้ายร้านอิโมยะ โลโก้รูปมันฝรั่ง ร้านอิโมยะ ตั้งอยู่ชั้น 4 โทรศัพท์ 0-2663-5185-6